นิสสันมูราโน เก๋งสปอร์ตบวกเอสยูวี
Nissan Murano โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครบนท้องถนน
ความนิยมวัตถุเคลื่อนย้ายคนที่เรียกว่ารถนั้นแปรเปลี่ยนไปตามเวลาดุจแฟชั่นอื่น ๆ
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาอาการฮิตรถเอสยูวีแพร่กระจายไปทุกมุมโลก ใคร ๆ ก็อยากมีรถลุย ๆ เท่ ๆ คันโต ๆ ไว้นั่ง แต่หลังจากผู้คนได้ใช้เอสยูวีสักพัก ก็เริ่มตระหนักว่ารถคันสูงใหญ่นั้นเทอะทะไม่คล่องตัว แถมกินน้ำมันดุเดือด และนั่งไม่สบายอย่างรถเก๋ง ทว่าก็ประทับใจกับข้อดีของการมีที่นั่งสูง และลุยได้
ดังนั้นจึงเปิดถนนให้รถพันธุ์ทางหรือครอสโอเวอร์ที่รวมข้อดีของเอสยูวีและเก๋งเข้าด้วยกันเข้ามาเป็นทางเลือก
มูราโนจากค่ายนิสสันนั้นก็เป็นหนึ่งในครอสโอเวอร์ที่น่าจับตา และแว่วว่าอาจจะเข้าบุกเมืองไทยเสียด้วย
อย่ากระนั้นเลย "วงเล่า" จึงได้หาข้อมูลของมูราโนมาฝากกัน ซึ่งเสปคเมืองไทยจะเป็นเช่นไรก็โยนให้ท่านผู้สันทัดกรณีไปหามาเปรียบกันดูก็แล้วกัน
มูราโนมีรูปทรงโดดเด่น มีเส้นสายของรถล้ำยุคตลอดหัวจรดท้าย มองเผิน ๆ อาจนึกว่าเป็นรถสปอร์ตคูปยกสูง
ทางเอ็ดมุนส์ดอทคอมได้จับมูราโนมาทดสอบตั้งแต่เปิดตัวแรก ๆ แล้วสรุปไว้ว่า มูราโนหาใช่เป็นรถสเตชันแวกอนยกสูงดาด ๆ ธรรมดาไม่ แต่เป็นรถที่ให้การขับขี่แจ่มมาก ๆ นั่งสบาย ภายในออกแบบให้อรรถประโยชน์ดี รวมทั้งหน้าตาทั้งภายนอกภายในก็เท่สุด ๆ ส่วนเครื่องยนต์นั้นก็เดินเรียบทรงพลัง
นิสสันนั้นผลิตมูราโนในญี่ปุ่นแต่มุ่งเจาะตลาดอเมริกาเหนือ โดยพุ่งเป้าเข้ายึดหัวใจผู้ซื้อที่เมียงมองฮอนด้าไพลอต หรือโตโยต้าไฮแลนเดอร์เป็นหลัก
มูราโนมีฐานมาจากนิสสันอัลติมา และใช้เครื่องบล็อกเดียวกันคือหกสูบ 3.5 ลิตร แต่ปรับให้มีแรงม้า 245 ตัวที่ 5800 รอบ แรงฉุด 246 ปอนด์-ฟุตที่ 4400 รอบ โดยมีจุดเด่นตามแบบฉบับวีคิว คือ เครื่องเดินเรียบ แรงเยอะและให้สำเนียงเสนาะโสตยิ่งนัก
ระบบเกียร์นั้นมีทั้งแบบอัตโนมัติซีวีที และแมนวล
ในตลาดอเมริกานั้นผู้ซื้อเลือกได้ว่าจะเอาแบบขับสอง หรือขับสี่ ซึ่งหลังจากการทดสอบ เอ็ดมุนส์บอกว่าอารมณ์การขับขี่บนท้องถนนของมูราโนทั้งสองแบบนั้นใกล้เคียงกัน
มูราโนมีอุปกรณ์มาตรฐานประจำตัวให้ไม่น้อยหน้าใครอื่น ในการหยุดรถก็มีดิสก์เบรคสี่ล้อพร้อมเอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรค และระบบช่วยเบรคทำงาน ส่วนในแง่ของการปกป้องผู้โดยสารก็มีถุงลมสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ม่านถุงลมข้าง และเข็มขัดนิรภัยทั้งห้าที่นั่ง
นิสสันรุ่นนี้ใช้ช่วงล่างร่วมกับรถเก๋งอัลติมา คือ มีระบบกันสะเทือนอิสระสี่ล้อ ข้างหน้าสตรัทและข้างหลังมัลติลิงค์
มูราโนในโชว์รูมแดนคาวบอยนั้นมีสองรุ่นให้เลือก คือ รุ่นนั่งสบาย-เอสแอล และรุ่นสปอร์ต-เอสอี อันให้การตอบสนองจากถนนมากกว่า รถโยนตัวน้อยกว่า ทำให้การลากเลื้อยในถนนคดโค้งเป็นของหวานคอนักซิ่ง
ด้วยความเป็นครอสโอเวอร์ มูราโนจึงบรรจุความสบายเหนือระดับกว่าเอสยูวี เป็นต้นว่า ที่นั่งคุมด้วยไฟฟ้า แท่นวางแขนที่ชักเข้าออกได้ ระบบควบคุมอากาศอัตโนมัติ ฯลฯ
เมื่อเข้าไปภายใน นิสสันใช้อลูมินัมแท้ตกแต่งตรงโน่นตรงนี้ได้กิ๊บเก๋ตาม "แนวออดี้" ที่เตะตา คือ มูราโนมีแผงควบคุมที่ดูเผิน ๆ เหมือนลอยอยู่เหนือคอนโซล ในสไตล์ของรถยุคหน้า แถมยังเบิกทางให้เก็บของได้มากขึ้นด้วย
ส่วนช่องวางสำหรับผู้ที่นิยมกินน้ำกระป๋อง น้ำขวดนั้นมีกระจายอยู่ทั่วรถ มีแม้กระทั่งที่วางโทรศัพท์ ที่เก็บเหรียญ หรือช่องที่เก็บโน๊ตบุคได้สบาย ๆ
ที่นั่งด้านหลังนั้นกว้างขวางพอตัว และหากต้องการเนื้อที่บรรทุกพิเศษก็พับเบาะหลังให้ราบได้ง่าย ๆ โดยก้านบังคับจากด้านหลังรถ ไม่ต้องเดินไปที่เบาะแถวสองแต่อย่างใด
Nissan Murano ด้านท้ายที่เน้นสวยเป็นหลัก
ราคาฐานของมูราโนคือ 29,000 เหรียญสหรัฐ แต่ก็จะแพงขึ้นตามออพชัน ซึ่งของเลือกใส่เพิ่มที่เด่น ๆ ก็มีแป้นเบรค/คันเร่งแบบปรับได้ด้วยไฟฟ้า เบาะไฟฟ้า ระบบจำตำแหน่งที่นั่ง ซันรูฟ ระบบเครื่องเสียงหกซีดีจากโบส ฯลฯ
แม้ว่ามูราโนจะมีคู่แข่งที่น่าครั่นคร้ามอย่างฮอนด้าไพล็อต หรือโตโยต้าไฮแลนเดอร์ โดยทุกคันก็จะมีจุดดีจุดขายที่เครือ ๆ กัน กินกันไม่ค่อยลง แต่ความโดดเด่นของนิสสันคันนี้ที่ยากจะหาใครเทียบก็คือ หน้าตาที่ต่างจากใครในท้องถนน อันเป็นผลมาจากกรอบดวงไฟที่คาดรอบ เส้นสายที่มีจังหวะลูกขัด และกระจังที่เตะตานั่นเอง
ดังนั้นหากใครที่นึกชมชอบแมกซิมา/เทียนา แต่อยากจะเอาไปยกสูง ก็นี่เลย มูราโนเป็นคำตอบสุดท้าย
ข้อมูล : ภาพรวมของมูราโน, บททดสอบมูราโน ทั้งคู่จาก edmunds.com
<< กลับสู่หน้าหลัก