Wednesday, December 08, 2004

แนวโน้มรถใหม่


BMW M5 หนึ่งในรถเสปคจากสนามแข่งที่ถูกส่งลงถนนหลวง

ในช่วงปลายปีเช่นนี้ เป็นธรรมเนียมที่คอลัมนิสต์นิตยสารรถจะพกข้อสรุปประจำปี หรือคาดเดาทิศทางของวงการรถยนต์ในศักราชถัดไป

อย่างในมอเตอร์เทรนด์ ก็มีพูดถึงกระแสในอนาคตไว้น่าสนใจมาก

เพราะนับทศวรรษมาแล้วที่สูตรสำเร็จในการทำเงินของผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย คือ การทำรถเอสยูวีออกมาขาย ทว่าตอนนี้ชาวบ้านก็ชักจะเบื่อ ๆ รถหน้าตาลุย ๆ เทอะทะ ซดน้ำมันหนักเสียแล้ว

ดังนั้นสิ่งใหม่ที่จะโดนใจคนขับรถนั้นจะต้องไม่เหมือนเดิม โดยกระแสใหม่นั้นคือ

1. เลิกฮิตเอสยูวี หันไปมองซียูวี
การสร้างรถเอสยูวีบนเฟรมบันไดในแบบปิคอัพนั้นตกยุคไปเรียบร้อย โดยสิ่งที่มาแทนคือ รถครอสโอเวอร์ (ซียูวี "crossover utility vehicles") ที่ผสมด้านล่างแบบเก๋ง หรือมินิแวน เข้ากับอรรถประโยชน์ของรถยกสูง

2. ไฮบริด ไฮบริด ไฮบริด
ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ส่งผลให้พลโลกเห่อพรีอุส รถไฮบริดจากโตโยต้ากันไปถ้วนทั่ว และตอนนี้บรรดาค่ายรถทั้งหลายก็แห่กันผลิต แห่กันทำโครงการรถไฮบริดกันยกใหญ่

บางเทคโนโลยีนั้นก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร เป็นต้นว่า เครื่องยนต์ที่ปิดลูกสูบบางส่วนในระหว่างการใช้งาน แต่ที่โดดเด่นคือ ดีเซล ซึ่งมาแรงมากในยุโรป อันเป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้เครื่องเดินเรียบและสะอาด

3. ส่งรถเสปคสนามแข่งลงท้องถนนหลวง
การขายรถเครื่องใหญ่แรง ๆ งานนี้คงไม่ใช่ตลาดบ้านเรา แต่ที่บ้านเขานั้นก็ได้เห็นว่ารถจำพวก 500 แรงม้านั้นมีออกมาเพียบโดยเฉพาะจากค่ายเยอรมัน รวมถึงพวกที่ไม่ถึง 500 แต่เป็น "รถซิ่ง" อย่างนิสสัน 350Z แลนเซอร์อีโว หรือซูบารุ WRX ที่ขายดีกันมาก

4. รถหรูที่มีค่าตัวขนาดย่อม ๆ
แต่เดิมรถหรู ๆ จากเยอรมัน หรือญี่ปุ่นนั้นมักจะแพงหูดับ คนรวยจริงเท่านั้นถึงจะเอาอยู่ ทว่าด้วยประสิทธิภาพการผลิต และแนวทางการตลาด ทำให้รถหรูมีราคาเบาลง ทำให้คนเริ่มรวยก็หามาขับได้ ดูอย่างรถซีดาน รถเอสยูวีรุ่นเล็กที่เริ่มหลากหลายจากบีเอ็มดับเบิลยู เมอร์ซีเดส-เบนซ์ ค่ายโฟล์ค หรือเล็กซัสนั่นปะไร

5. ชูความปลอดภัยเป็นจุดขาย
สมัยนี้ลูกเล่น หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่เพียงแต่จะถูกนำมาใส่รถค่าตัวแพง ๆ เท่านั้น แต่รถตลาดทั่วไปก็เริ่มมีลงกันมากขึ้น

อย่างเช่นที่เริ่มฮิตกัน คือ อุปกรณ์ควบคุมการทรงตัวของรถด้วยอีเล็คทรอนิคส์ (electronic stability control ) อุปกรณ์กันโคลงด้วยอีเล็คทรอนิคส์ (anti-rolling)

และที่เริ่มโผล่ให้เห็น คือ อุปกรณ์เตือนคนขับเมื่อรถแถออกนอกเส้นทาง อุปกรณ์รักษาระดับความเร็วหรือครูสคอนโทรล ที่อาศัยเรดาร์เข้าช่วยเพื่อรักษาระยะห่างกันรถคันหน้าอย่างอัตโนมัติ หรืออุปกรณ์เรดาร์ที่กวาดตามองรถที่จุดอับสายตาด้านข้างให้คุณ


Toyota Aygo ตัวอย่างของรถเล็กที่จะมาแรง

6. รถเล็กนั้นเท่ห์
รถขนาดเล็กที่เจาะใจวัยรุ่นเริ่มสร้างกระแสขึ้นมามากขึ้น ๆ ทุกวัน และมีแนวโน้มว่ารถเล็ก ๆ จิ๋ว ๆ จากทั้งค่ายเยอรมันและญี่ปุ่น จะออกเพ่นพ่านบนถนนโลกเยอะกว่าเดิม

7. รถแนวเด็กเมืองนั้นจ๊าบ
เด็กเมืองแนวใหม่ที่นิยมแต่งรถ แต่งเครื่องให้มีบุคลิกเฉพาะตัวนั้น มักจะสร้างกระแสให้รถที่หลาย ๆ คนมองข้ามในตอนแรก กลับมาขายดีกันอย่างไม่น่าเชื่อ และก็คงจะยังเป็นอย่างนั้นต่อไป อยู่ที่ว่าบริษัทรถจะออกลูกเล่นทันแฟชั่นของคนกลุ่มเล็กแต่มีอิทธิพลสูงกลุ่มนี้ได้หรือเปล่า

8. ขายบริการไม่ใช่ขายรถ
ครับ ไม่ว่ายุคนี้หรือยุคไหน ถ้ารถดีแต่บริการหลังการขายแย่ใคร ๆ ก็ไม่อยากแล หรือถ้าหากหลวมตัวลองเข้าไปสักคัน ก็ต้องร้องจ๊ากออกมาหาผู้ที่บริการได้ดีและสมเหตุผลกว่าอยู่ร่ำไป

และการบริการในวันข้างหน้านั้น ควรจะใช้อินเตอร์เน็ตเข้าช่วยเพื่อสื่อสารกับผู้ซื้อให้ ตรงใจ โดนใจ และทันใจมากขึ้น

9. มาตรฐานคุณภาพใหม่
ว่ากันว่าแต่เดิมนั้นมาตรฐานก็คือ รถที่นำออกขายต้องไร้ข้อบกพร่องเมื่อถึงโชว์รูม และไม่รวนในช่วงปีแรก ๆ

แต่มาตรฐานใหม่นั้น รถจะต้องทนทานไม่จุกจิกในระยะยาว หรือหลังจาก 3 ปีที่วิ่งออกมาจากโชว์รูม

นอกจากนั้นรถจะต้องดูมีคุณภาพทั้งไม่ว่าจะมองด้วยตา รู้สึกด้วยใจ หรือฟังด้วยหู อันเป็นแนวทางที่ค่ายเยอรมันอย่างบีเอ็มดับเบิลยู หรือออดี้ทำกันสำเร็จมาแล้ว

10. จีนกำลังมา
วงการอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นมองตลาดจีนว่าเป็นเค้กก้อนมหึมาที่จะทำเงินให้ตัวเองอย่างเป็นกอบเป็นกำในอนาคต และก็แห่กันไปลงทุนกันยกใหญ่

รถนิยม อ้อ รสนิยมแบบจีนนั้น ก็ทำให้ค่ายรถเริ่มหาแนวทางการออกแบบยานยนต์ที่เป็นแนวเอเชียโดยเฉพาะ อย่างเช่น ทางค่ายบีเอ็มดับเบิลยูนั้นก็เริ่มจับทางได้บ้างแล้วว่า รถที่ไม่ค่อยถูกตาฝรั่งอย่างบีเอ็มซีรีส์เจ็ดนั้น เป็นที่โดนใจชาวมังกรกระเป๋าหนักยิ่งนัก

และหากมองในทางกลับกัน บรรดาผู้ผลิต "รถพันธุ์ทาง" หัวโฟล์ค ท้ายฮอนด้า ลำตัวโตโยต้า อาจจะสั่งสมประสบการณ์มากพอที่จะทำรถส่งออก และสร้างตัวตนของรถยนต์จีนในตลาดโลก ก็อาจเป็นไปได้

ที่มา : motortrend.com