Monday, September 27, 2004

ฮุนได คิดจะสู้กับเสือ จึง "ยกเค้า" เสือเสียเลย


2006 Hyundai Sonata ที่จะออกมาชนกับแคมรี และแอคคอร์ดในปลายปีหน้า (ข้อมูลบางส่วน และภาพจาก cars.com) Posted by Hello

ลองหรี่ตาดูภาพ แล้วทายดูสิครับว่าท่านเห็น "เค้า" รถอะไรในภาพบ้าง

นี่แหละครับ 2006 ฮุนได (ยำใหญ่ของแท้) โซนาต้า

ฮุนได ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ในตลาดรถยนต์เสียหลายรอบ คาดว่าปัจจุบันคงเริ่มเจนเวทีมากขึ้น และคงได้เรียนรู้เคล็ดวิชาไปไม่น้อย จากบทเรียนและประสบการณ์อันโชกโชนในหลาย ๆ ที่ หลาย ๆ แห่ง ฮุนไดน่าจะซึมซับหัวใจสำคัญของการอยู่รอดในยุทธจักรรถยนต์ไปพอควร

ตลาดเมืองไทย ผลุบมาแล้วก็เดี้ยงหาย

สิบกว่าปีที่แล้วในตลาดที่ใหญ่กว่าอย่างอเมริกา ฮุนไดก็โผล่ไปด้วยลูกไม้รถราคาต่ำกว่าใครอื่น และก็โดนขย้ำสมใจ เพราะว่าถูกก็จริงแต่ไม่ประหยัด (ค่าซ่อม)

ตอนนั้นฮุนไดคงยังไม่สันทัดจัดเจนภาษาอังกฤษ เพราะบรรดาคนอเมริกันส่วนใหญ่ที่มองหาซื้อรถไว้สำหรับแทนตีนเดินในทุก ๆ วันนั้น ท่องคำอยู่คำหนึ่งไว้ถ้วนหน้า คือ reliability ซึ่งรถอย่างโตโยต้า และฮอนด้าจากชาติคู่แค้นทั้งในอดีตกาลจวบจนปัจจุบัน เขียนคำข้างต้นใส่กระดาษแปะผนังห้องทำงานของโรงงานผลิตและดีลเลอร์กันทุกแห่ง แล้วรถก็ขายดีดุจโดนเสกด้วยอำนาจของคาถาร่ายมนต์โดเรมอน ขายได้มากชนิดที่ว่ารถอเมริกันเองยังยอมให้

คาถา reliability นั้น หากถอดเป็นไทย ก็ได้ความว่า - ทนมือ ทนตีน เชื่อใจได้ ไม่จุกจิก

เมื่อห้าหกปีที่แล้ว ฮุนไดเริ่มรู้ความมากขึ้น ก็เลยซัดยันต์เปรี้ยง "5-years/60,000-mi. basic, 10-years/100,000 powertrain" รับประกันซะห้าปีสิบปีไปเลย

นั่นคือ ประกันห้าปีหรือหกหมื่นไมล์ตั้งแต่กันชนหน้าจรดกันชนท้าย และสิบปีหรือหนึ่งแสนไมล์หากระบบขับเคลื่อนพัง ลองดูสิว่าคนอเมริกันที่ใช้รถกันแค่สี่ห้าปีแล้วโละทิ้งจะยังไม่ไยดีฮุนไดอยู่อีกหรือเปล่า?

แต่ยันต์ศักดิ์สิทธิ์ก็พอทำให้ขายรถได้เครือ ๆ ไม่หวือหวาเท่าไร ชวนใจเหี่ยวเป็นที่สุด แต่ไม่หมดกำลังฮึดซะทีเดียว

ด้วยเหตุนั้น ฮุนไดอาจหันมาทบทวนรูปโฉมของตน ว่าบรรดาดีไซน์เนอร์ยุโรปที่ถูกจ้างมาให้ออกแบบรถของตัวอาจจะเป็น "มือปั้นรถชั้นสอง" เพราะรถที่ออก ๆ มาดูจะมีหน้าตาที่ตกยุคชาวบ้านไปสี่ห้าปี ทว่ารถที่เขาขาย ๆ กัน อายุรุ่นของรถมีอยู่แค่สี่ปี เปรียบไปก็เหมือนฮุนไดเอารถเก่ามาขาย จะทำอย่างไรกันดี?

ครั้นจะออกแบบรถให้ล้ำอนาคต หน้าตาสวย เครื่องแรง ชิ้นส่วนทนทาน ถูกใจชาวบ้านยันเสนาบดี และขายดิบขายได้เป็นเทน้ำเทท่า ก็ยากพอ ๆ เท่ากับโอกาสการถูกหวยล็อตเตอรีรัฐบาลไทย และคงจะใช้เงินมหาศาลยิ่งกว่าการซื้อสโมสรฟุตบอลอังกฤษสิบสโมสร

ไฉนเลย หากเราจะสู้กับเสือ ก็ขอ "ยกเค้า" เสือมันเสียให้สิ้นเรื่อง เพราะฉะนั้น ฮุนไดโซนาต้าที่จะออกมาฟัดกับแคมรีและแอคคอร์ดในปลายปี 2005 จึงถอดโครงออดี้เอ 6 มาใส่ไฟท้ายแอคคอร์ด และภายในแคมรีอย่างในภาพ ไม่นับที่ตามองไม่เห็นอีกพอท้วม ๆ

จากข้อมูลที่ cars.com ไปได้มาจากงานปารีส์มอเตอร์โชว์นั้นเครื่องเคราที่จะบรรจุลงกระโปรง เป็นเครื่องใหม่ 2.4 ลิตรสี่สูบที่ใช้ร่วมกับรถเครือไครสเลอร์และมิตซูบิชิ และรุ่นท็อปก็อัดเครื่อง 3 ลิตรหกสูบเข้าไป โดยฮุนไดลงทุนสร้างโรงงานไปกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐเพื่องานนี้โดยเฉพาะ (หวังว่าเงินที่กู้มาคงไม่เป็นตัวอมโรค "ต้มยำกิมจิ" ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตนะ)

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อการ "แจ้งเกิด" อย่างเดียวโดยแท้

ผมเองก็เอาใจช่วย

และโปรดอย่าคิดว่าที่ผมเขียนข้างต้นทั้งหมด คือ การปรามาสบริษัทรถยนต์อย่าง "ฮอนเด" เป็นเด็ดขาด แต่ผมขอบอกไว้ว่าหากบางประเทศจะลองทำวัตถุเคลื่อนย้ายคนที่เรียกว่ารถโดยพะยี่ห้อของตัวเองบ้าง อาจจำเป็นต้องเรียนรู้อย่างฮุนได และอาจต้องทำอย่างฮุนได

เผลอ ๆ ในวันข้างหน้า ประเทศนั้นอาจจะต้อง "ยกเค้า" ฮุนไดก็เป็นได้ ใครจะรู้ "จอร์จ"